เมนู
กลับไปที่หน้าหลัก

ข้อตกลงการให้บริการชําระเงินผ่านบัตรออนไลน์ PayPal

ข้อตกลงการให้บริการชําระเงินผ่านบัตรออนไลน์ PayPal

อัปเดตล่าสุดเมื่อ 26 กันยายน ค.ศ. 2022

เกี่ยวกับข้อตกลงฉบับนี้

ข้อตกลงการให้บริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์นี้ ("ข้อตกลงของบัตร") เป็นสัญญาระหว่างคุณ ("ผู้ค้า" "คุณ" "ของคุณ") กับ PayPal Pte. Ltd. ("PayPal", "เรา", "พวกเรา" หรือ "ของเรา" แล้วแต่ว่าบริบทจะกำหนดไว้เช่นไร) คุณยอมรับว่าการใช้บริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์ (ตามที่ระบุไว้ด้านล่าง) ที่เราเสนอให้คุณ จะถือว่าคุณยอมรับข้อตกลงของบัตรนี้ และเราขอแนะนําให้คุณจัดเก็บหรือสั่งพิมพ์สําเนาข้อตกลงของบัตรนี้

ข้อตกลงของบัตรนี้ สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ PayPal และข้อตกลงอื่นใดที่มีผลบังคับใช้ที่คุณได้ทําไว้กับ PayPal (รวมเรียกว่า "ข้อตกลงของ PayPal") จะมีผลบังคับใช้กับการใช้บริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์ของคุณ คุณต้องอ่าน ตกลง และยอมรับข้อกำหนดและเงื่อนไขทั้งหมดที่อยู่ในข้อตกลงในการใช้บัตรนี้ เพื่อขอรับบริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์อย่างน้อยหนึ่งรายการด้านล่าง

เราอาจเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขข้อตกลงของบัตรและนโยบายใดๆ ที่บังคับใช้เป็นครั้งคราว ข้อตกลงฉบับแก้ไขจะมีผลทันทีที่เราลงประกาศไว้บนเว็บไซต์ PayPal เว้นแต่จะระบุไว้เป็นอย่างอื่น ถ้าการเปลี่ยนแปลงของเราลดสิทธิ์หรือเพิ่มความรับผิดชอบของคุณ เราจะประกาศให้คุณทราบในหน้าการอัปเดตนโยบายบนเว็บไซต์ของเราและแจ้งให้คุณทราบล่วงหน้าในระยะเวลาเดียวกันกับที่กำหนดไว้ในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ PayPal จะไม่มีระยะเวลาการแจ้งล่วงหน้าในกรณีที่เป็นการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับการเพิ่มบริการใหม่ การเพิ่มฟังก์ชันการใช้งานให้กับบริการที่มีอยู่แล้ว หรือการเปลี่ยนแปลงอื่นใดที่เราเชื่อตามอย่างสมเหตุสมผลว่าไม่ได้เป็นการลดสิทธิ์หรือเพิ่มความรับผิดชอบของคุณ ในกรณีดังกล่าว เราจะทำการเปลี่ยนแปลงโดยไม่แจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า และจะมีผลทันทีที่เราลงประกาศไว้บนเว็บไซต์ของเรา

การใช้บริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์ต่อไปหลังจากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อตกลงของบัตรนี้ แสดงว่าคุณตกลงที่จะปฏิบัติตามและผูกพันตามการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ถ้าคุณไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ ในข้อตกลงของบัตรนี้ คุณอาจยุติการใช้บริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์ตามที่ระบุไว้ในข้อ 7 หากสามารถทำได้ ก่อนที่การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ และ/หรือปิดบัญชีของคุณ  แม้ว่าคุณจะสามารถปิดบัญชี PayPal ของคุณได้ตลอดเวลาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย โปรดทราบว่าคุณอาจยังคงต้องรับผิดต่อหนี้สิ้นที่คุณก่อไว้หลังจากยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ซึ่งคุณต้องรับผิดชอบก่อนที่จะยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้

"บริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์์" หมายถึง ชุดบริการประมวลผลการชำระเงินที่ PayPal มอบให้ ซึ่งจะทำให้ผู้ค้าสามารถยอมรับและรับการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตและบัตรเดบิตบนเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ หรือทางโทรศัพท์ได้ เพื่อวัตถุประสงค์ของข้อตกลงฉบับนี้ บริการเหล่านี้ได้แก่ บริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตขั้นสูง การป้องกันการฉ้อโกง, Payments Pro และ Virtual Terminal

เพื่อวัตถุประสงค์ของข้อตกลงฉบับนี้ บริการเหล่านี้ประกอบด้วย:

  1. บริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตขั้นสูง: ฟังก์ชันในการยอมรับการทำรายการด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิต
  2. การป้องกันการฉ้อโกง: บริการเสริมที่ PayPal มอบให้เพื่อช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงฟีเจอร์การจัดการความเสี่ยงเพิ่มเติมที่อาจช่วยปกป้องคุณจากการทำรายการที่อาจเป็นการฉ้อโกง ดังที่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมไว้บนเว็บไซต์ PayPal
  3. Payments Pro หรือ PayPal Payments Pro (หรือที่เรียกว่า "บริการ Payments Pro บนเว็บไซต์") หมายถึง ชุดบริการซึ่งประกอบด้วยปุ่มชำระเงินของ PayPal การชำระเงินจากบัตรโดยตรง และ Virtual Terminal ดังที่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ในเอกสารนักพัฒนาระบบ PayPal บริการเสริมเพิ่มเติมเสริมประกอบด้วยการป้องกันการฉ้อโกงและการชำระเงินเป็นงวด ซึ่งทั้งหมดนี้มีการอธิบายเพิ่มเติมไว้อย่างครบถ้วนมากยิ่งขึ้นบนเว็บไซต์ PayPal
  4. Virtual Terminal หรือ VT หมายถึงบริการที่ช่วยให้คุณสามารถรับการชำระเงินผ่านบัตรได้โดยป้อนข้อมูลบัตรที่ลูกค้ามอบให้แก่คุณด้วยตนเอง

บริการแต่ละประเภทข้างต้นประกอบด้วย API ของบริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์ของ PayPal หรือ SDK ของ PayPal ตั้งแต่หนึ่งรายการขึ้นไป

คำที่เป็นตัวหน้ามีคำนิยามระบุไว้ในข้อ 12 ด้านล่าง โปรดดู ดาวน์โหลด และบันทึกข้อตกลงของบัตรนี้ไว้

1. การตั้งค่าและการเปิดใช้บริการของคุณ

  1. การเริ่มต้นใช้งาน ในการขอรับและใช้บริการที่เกี่ยวข้อง คุณจะต้องดำเนินการดังต่อไปนี้
    1. ทำกระบวนการสมัครออนไลน์ให้เสร็จสมบูรณ์สำหรับบริการที่เกี่ยวข้อง เปิดบัญชีธุรกิจของ PayPal (ถ้ายังไม่มี) และทำตามคำแนะนำที่ระบุไว้ในขั้นตอนออนไลน์ของ PayPal เพื่อเข้าถึงและใช้บริการของคุณ
    2. เชื่อมโยงบริการที่เกี่ยวข้องเข้ากับขั้นตอนการชำระเงินในเว็บไซต์ของคุณ คุณไม่จำเป็นต้องเชื่อมโยงบริการเข้ากับขั้นตอนการชำระเงินในเว็บไซต์ของคุณถ้าคุณเข้าถึงและใช้ Virtual Terminal เท่านั้น PayPal จะไม่รับผิดชอบต่อปัญหาใดๆ ที่อาจเกิดขึ้นจากการเชื่อมโยงบริการของคุณเข้าไว้ในเว็บไซต์ 'ไลฟ์' ของคุณ คุณเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการเลือก การตั้งค่า การเชื่อมโยง และการปรับแต่งบริการของคุณ และในการทำให้แน่ใจว่าบริการเหมาะสมกับความต้องการของคุณ
    3. เปิดใช้บริการของคุณโดยใช้บริการนี้ในการทำรายการชำระเงินแบบ 'ไลฟ์' เป็นครั้งแรก
  2. ความเสมอเหมือนกันของวิธีการชำระเงินแบบต่างๆ ในการใช้บริการ PayPal จะอนุญาตให้คุณยอมรับบัตรเดบิตและบัตรเครดิตโดยตรง ในการแสดงตัวเลือกการชำระเงินบนเว็บไซต์ของคุณ คุณต้องแสดงโลโก้ของ PayPal และสถาบันการเงินผู้ออกบัตรโดยให้มีขนาดและความโดดเด่นเท่ากันกับขนาดและความโดดเด่นของวิธีการชำระเงินอื่นๆ คุณต้องไม่เลือกปฏิบัติหรือแสดงความชื่นชอบวิธีการชำระเงินวิธีใดวิธีหนึ่งมากกว่าอีกวิธีหนึ่ง ในการใช้โลโก้และปุ่มของ PayPal คุณยังตกลงด้วยว่าจะปฏิบัติตามมาตรฐานการใช้โลโก้ซึ่งอยู่ที่: https://www.paypal.com/webapps/mpp/logos-buttons หรือตามที่ได้รับการอัปเดตเป็นครั้งคราว
  3. การอนุมัติรายงานเครดิต คุณอนุญาตให้ PayPal แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับการทำรายการผ่านบัตรของคุณทั้งที่เป็นบัตรทางธุรกิจและบัตรของบุคคลให้แก่บุคคลภายนอกเพื่อวัตถุประสงค์ในการยอมรับและการชําระบัญชีการทำรายการผ่านบัตรของคุณ และที่เกี่ยวข้องกับสินค้า รวมถึงการปฏิเสธชําระเงิน การคืนเงิน ข้อพิพาท การปรับเปลี่ยน และการสอบถามอื่นๆ คุณตกลงที่จะอนุญาตให้ PayPal ขอรับประวัติเครดิตและข้อมูลทางการเงินเกี่ยวกับความสามารถของคุณในการปฏิบัติตามภาระหน้าที่ภายใต้ข้อตกลงของบัตรนี้จากบุคคลภายนอกในลักษณะที่กำหนดไว้ใน นโยบายความเป็นส่วนตัวของ PayPal โดย PayPal จะตรวจสอบเครดิตและปัจจัยเสี่ยงอื่นๆ ของบัญชี PayPal ของคุณ (รวมถึงโดยไม่จำกัดเฉพาะการตีคืนการชำระเงินและการปฏิเสธชำระเงิน ข้อร้องเรียนของลูกค้า ข้อเรียกร้อง) อย่างต่อเนื่อง PayPal จะจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลที่ได้รับตาม นโยบายความเป็นส่วนตัวของ PayPal
  4. การยกเลิก PayPal อาจยกเลิกการเข้าถึงและ/หรือการใช้บริการใดๆ และ/หรือยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ได้ตลอดเวลาก่อนวันที่เปิดใช้งานโดยการแจ้งให้คุณทราบ

2. ค่าธรรมเนียม

เพื่อให้ PayPal มอบบริการให้แก่คุณ คุณตกลงที่จะชำระเงินค่าธรรมเนียมตามจํานวนเงินและรูปแบบที่ตกลงไว้กับ PayPal ในระหว่างขั้นตอนการสมัคร

3. ความปลอดภัยของข้อมูล การคุ้มครองข้อมูล ความสามารถในการโอนย้ายข้อมูล

  1. การปฏิบัติตามภาคผนวกการรักษาความปลอดภัยของข้อมูล คุณตกลงที่จะปฏิบัติตามภาคผนวก 1 ด้านล่างซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงของบัตรนี้
  2. ราคาและสกุลเงิน คุณต้องไม่ส่งการทำรายการชำระเงินซึ่งจำนวนเงินที่ได้รับคือผลลัพธ์ของการแปลงสกุลเงินแบบไดนามิก ซึ่งหมายความว่าคุณต้องไม่แสดงรายการสินค้าในสกุลเงินหนึ่งแล้วยอมรับการชำระเงินในอีกสกุลเงินหนึ่ง ถ้าคุณยอมรับการชำระเงินในสกุลเงินมากกว่าหนึ่งสกุลเงิน คุณจะต้องแสดงรายการราคาสำหรับแต่ละสกุลเงินแยกกัน
  3. การปฏิบัติตามบทต่อท้ายการคุ้มครองข้อมูล คุณ (ในฐานะผู้ค้า) และเราตกลงที่จะปฏิบัติตามบทต่อท้ายการคุ้มครองข้อมูลซึ่งสามารถอ่านได้ที่นี่ และเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงของบัตรนี้ ข้อกำหนดของภาคผนวกการคุ้มครองข้อมูลมีผลเหนือข้อกำหนดใดๆ ที่ขัดแย้งกันในข้อตกลงของบัตรนี้ที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลและความเป็นส่วนตัว
  4. ความสามารถในการโอนย้ายข้อมูล เมื่อมีการยกเลิกหรือข้อตกลงของบัตรนี้หมดอายุ PayPal ตกลงที่จะจัดส่งข้อมูลบัตรเครดิตที่มีอยู่ รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้าของผู้ค้า ("ข้อมูลบัตร") ให้กับธนาคารที่ผู้ค้าใช้บริการหรือผู้ให้บริการชำระเงิน ("ผู้รับข้อมูล") รายใหม่ของผู้ค้า เมื่อมีการร้องขอเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้ค้า ในการดำเนินการดังกล่าว ผู้ค้าจะต้องให้ข้อมูลทั้งหมดที่ขอแก่ PayPal รวมถึงหลักฐานว่าผู้รับข้อมูลได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด PCI-DSS ของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรและปฏิบัติตาม PCI ระดับ 1 PayPal ตกลงที่จะโอนข้อมูลบัตรไปยังผู้รับข้อมูลตราบใดที่ตรงตามเงื่อนไขต่อไปนี้: (ก) ผู้ค้าแสดงหลักฐานแก่ PayPal ว่าผู้รับข้อมูลได้ปฏิบัติตามข้อกำหนด PCI-DSS ของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร (ปฏิบัติตาม PCI ระดับ 1) โดยจัดส่งใบรับรองหรือรายงานการปฏิบัติตามข้อกำหนด PCI-DSS ของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรจากผู้ให้บริการที่มีคุณสมบัติเหมาะสมและข้อมูลอื่นๆ ที่ PayPal ร้องขออย่างสมเหตุสมผลมาให้ PayPal (ข) การโอนข้อมูลบัตรดังกล่าวสอดคล้องกับข้อกำหนด PCI-DSS ฉบับล่าสุดของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร และ (ค) การโอนข้อมูลบัตรดังกล่าวได้รับอนุญาตภายใต้กฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ หรือข้อบังคับใดๆ ที่บังคับใช้ (รวมถึงกฎหมายคุ้มครองข้อมูล)

4. สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการและวิธีที่เอกสารทางกฎหมายของเรามีผลบังคับใช้

  1. สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการมีผลบังคับใช้ดังต่อไปนี้ ข้อกำหนดของสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการมีผลบังคับใช้กับคุณ และนำมารวมไว้ในข้อตกลงของบัตรนี้โดยการอ้างอิง คำว่าบริการของ PayPal ในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการจะรวมถึงบริการที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีความไม่สอดคล้องกันระหว่างข้อตกลงของบัตรนี้กับสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ ข้อตกลงของบัตรนี้จะแทนที่สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ แต่เฉพาะในขอบเขตของความไม่สอดคล้องกันนั้นและที่เกี่ยวข้องกับบริการที่เกี่ยวข้องเท่านั้น สามารถดูสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการได้จากลิงก์ในส่วนท้ายของหน้าเว็บ PayPal แทบทุกหน้า สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการมีข้อกำหนดสําคัญที่
    1. อนุญาตให้ PayPal เรียกขอเงินสำรองเพื่อเป็นหลักประกันภาระหน้าที่ของคุณในการชำระการปฏิเสธชำระเงิน การตีคืนการชำระเงิน และค่าธรรมเนียมต่างๆ
    2. ผูกมัดให้คุณปฏิบัติตามนโยบายการใช้บริการของ PayPal เมื่อคุณใช้ PayPal
    3. ให้ผลทางกฎหมายแก่นโยบายความเป็นส่วนตัวของ PayPal ซึ่งควบคุมการใช้งานและการเปิดเผยข้อมูลของคุณและของลูกค้าร่วม และ
    4. อนุญาตให้ PayPal จํากัดการชำระเงินหรือบัญชี PayPal ของคุณในสถานการณ์ที่ระบุไว้ในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ
  2. การชำระเงินที่ไม่สำเร็จและเครื่องมือของบริการ คุณมีหน้าที่รับผิดชอบต่อการปฏิเสธชำระเงิน การตีคืนการชำระเงิน และการชำระเงินอื่นๆ ที่เป็นโมฆะตามที่ระบุไว้ในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ โดยไม่คำนึงถึงวิธีที่คุณใช้และกำหนดค่าบริการของคุณ รวมถึงเทคโนโลยีการกรองการฉ้อโกงและเครื่องมือป้องกันที่คล้ายคลึงกัน (ถ้ามี) หรือการใช้บริการป้องกันการฉ้อโกง เครื่องมือเหล่านั้นอาจมีประโยชน์ในการตรวจหาการฉ้อโกงและหลีกเลี่ยงความล้มเหลวในการชำระเงินแต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อความรับผิดชอบและความรับผิดของคุณตามสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการที่มีต่อการปฏิเสธชำระเงิน การตีคืนการชำระเงิน และการชำระเงินที่เป็นโมฆะ

5. การใช้ปุ่มชำระเงินของ PayPal

ถ้าคุณใช้บริการชำระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตขั้นสูง, Payments Pro หรือ Payments Pro Payflow คุณจะต้องใช้ปุ่มชำระเงินของ PayPal ในลักษณะดังต่อไปนี้

  1. คุณต้องเพิ่มปุ่มชำระเงินของ PayPal ไว้ (i) ก่อนที่คุณจะขอที่อยู่จัดส่ง/ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงินและข้อมูลทางการเงินอื่นๆ จากลูกค้าของคุณ หรือ (ii) ในหน้าเดียวกันกับหน้าที่คุณรวบรวมข้อมูลดังกล่าวถ้าคุณใช้หน้าเดียวสำหรับขั้นตอนการชำระเงิน
  2. คุณต้องจัดให้ PayPal เป็นตัวเลือกการชำระเงินร่วมกับตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ ที่คุณจัดไว้ให้ และต้องแสดงเครื่องหมายการยอมรับ PayPal โดยให้มีความโดดเด่นเท่าเทียมกับโลโก้ตัวเลือกการชำระเงินอื่นๆ ของคุณ คุณจะต้องไม่เลือกปฏิบัติต่อ PayPal หรือกีดกันไม่ให้ใช้เป็นตัวเลือกการชำระเงินแทนตัวเลือกการชำระเงินอื่นที่คุณจัดไว้ให้
  3. คุณต้องเสนอตัวเลือกให้ลูกค้าไม่ต้องจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล รวมถึงที่อยู่อีเมล ที่อยู่จัดส่ง/ที่อยู่สำหรับเรียกเก็บเงิน และข้อมูลทางการเงิน

6. ความยินยอมในการเรียกเก็บเงินเป็นงวด/การชำระเงินเป็นงวดสำหรับบริการบางประเภท

ถ้าคุณใช้ฟีเจอร์การเรียกเก็บเงินเป็นงวดหรือการชำระเงินเป็นงวด คุณยอมรับว่าคุณมีหน้าที่รับผิดชอบในการปฏิบัติตามกฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรและกฎหมายที่บังคับใช้ รวมถึงการทำข้อตกลงกับลูกค้าที่จะให้เรียกเก็บเงินเป็นงวด

7. สิทธิในกรรมสิทธิ์

  1. ทรัพย์สินทางปัญญา คุณรับทราบว่า PayPal และผู้ออกใบอนุญาตจะรักษาสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมด (รวมถึงสิทธิบัตร เครื่องหมายการค้า ลิขสิทธิ์ เครื่องหมายรูปลักษณ์ ความลับทางการค้า สิทธิ์ในฐานข้อมูล และสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาอื่นๆ ทั้งหมด) และกรรมสิทธิ์ในและต่อข้อมูลทั้งหมดที่เป็นความลับ ข้อมูล ผลิตภัณฑ์ และบริการอื่นๆ ที่เป็นกรรมสิทธิ์ทั้งหมด รวมทั้งแนวคิด แนวความคิด เทคนิค สิ่งประดิษฐ์ กระบวนการ ซอฟต์แวร์ หรือผลงานเขียนที่พัฒนาขึ้น รวมเข้าไว้ด้วยกัน หรือนำมาปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับบริการ และจัดไว้ให้โดย PayPal ตามข้อตกลงนี้ ซึ่งรวมถึงโดยไม่จำกัดเฉพาะการแก้ไขการปรับปรุง ผลงานลอกเลียนแบบ การกําหนดค่า การแปล การอัปเกรด และอินเตอร์เฟซของสิ่งดังกล่าว (สิ่งที่กล่าวมาข้างต้นทั้งหมดเรียกว่า "ทรัพย์สินทางปัญญาของ PayPal") ทรัพย์สินทางปัญญาของ PayPal ไม่รวมถึงฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล หรือเครือข่ายของคุณที่มีอยู่ก่อนแล้ว ยกเว้นในกรณีที่ระบุไว้อย่างชัดแจ้ง ณ ที่นี้ ไม่มีส่วนใดในข้อตกลงของบัตรนี้ที่จะสร้างสิทธิความเป็นเจ้าของหรือใบอนุญาตสำหรับและต่อสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของบุคคลอื่น และแต่ละฝ่ายจะยังคงเป็นเจ้าของและรักษาสิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาของตนโดยอิสระต่อไป ไม่มีสิทธิ์การใช้งานโดยนัยใดๆ ภายใต้ข้อตกลงของบัตรนี้ และ PayPal รวมทั้งซัพพลายเออร์ขอสงวนสิทธิ์ใดๆ ที่ไม่ได้ให้ไว้อย่างชัดแจ้งแก่คุณภายใต้ข้อตกลงของบัตรนี้ คุณจะต้องไม่ทําวิศวกรรมย้อนกลับ ถอดรหัส ดัดแปลง ไม่ว่าในลักษณะใดๆ หรือสร้างผลงานลอกเลียนแบบจากบริการ ใบอนุญาต (ด้านล่าง) หรือทรัพย์สินทางปัญญาใดๆ ของ PayPal
  2. ความเป็นเจ้าของข้อมูลและสื่อวัสดุ ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของการเข้าใช้งานของผู้ค้าและการใช้บริการ ผู้ค้าจะได้รับข้อมูลและวัสดุบางอย่าง ("วัสดุ") เพื่อใช้ร่วมกับบริการ สิทธิ์ในทรัพย์สินทางปัญญาทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับวัสดุยังคงเป็นทรัพย์สินของ PayPal หรือสถาบันผู้รับบัตรที่เกี่ยวข้อง (แล้วแต่ว่าเป็นกรณีใด) ผู้ค้าตกลงที่จะไม่ให้ โอน มอบหมาย ทำขึ้นใหม่ ขาย ขายต่อวัสดุ (บางส่วนหรือทั้งหมด) ให้กับบุคคลใด
  3. ใบอนุญาต PayPal มอบใบอนุญาตแบบไม่ผูกขาด ไม่สามารถโอนได้ สามารถเพิกถอนได้ ไม่อนุญาตให้ใช้สิทธิช่วง และแบบจำกัดให้แก่คุณเพื่อ
    1. ใช้ทรัพย์สินทางปัญญาและวัสดุใดๆ ของ PayPal รวมทั้งข้อมูลและเอกสารใดๆ ตามที่กําหนดไว้บนเว็บไซต์ PayPal เป็นครั้งคราวเท่านั้น ตามที่กำหนดและจําเป็นในการใช้บริการตามข้อกําหนดและเงื่อนไขของข้อตกลงของบัตรนี้ ("ใบอนุญาต IP" และในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ API, "ใบอนุญาต API") และเพื่อ
    2. ใช้เอกสารที่ PayPal จัดไว้ให้สำหรับบริการของคุณ และทำสำเนาเพื่อการใช้งานภายในธุรกิจของคุณเท่านั้น บริการที่คุณได้รับอนุญาตให้ใช้อาจมีการเปลี่ยนแปลงและจะเปลี่ยนแปลงไปพร้อมกับระบบที่เหลือของ PayPal ดูข้อ 11(a) คุณต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในการใช้งานและการดำเนินการที่มีอยู่ในเอกสารทั้งหมดของ PayPal และคำแนะนำที่มาพร้อมกับบริการซึ่งออกให้โดย PayPal เป็นครั้งคราว (รวมถึงโดยไม่จำกัดเฉพาะข้อกำหนดในการใช้งานและการดำเนินการที่เรากำหนดให้กับคุณเพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องและระเบียบข้อบังคับของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร)
  4. รหัสประจำตัว PayPal จะมอบรหัสระบุตัวตนที่เฉพาะเจาะจงให้คุณ รหัสนี้จะระบุตัวตนของคุณและตรวจสอบความถูกต้องของข้อความและคำแนะนำที่ส่งถึงเรา รวมทั้งคำแนะนำในการดำเนินการที่ส่งถึงอินเตอร์เฟซของซอฟต์แวร์ PayPal การใช้รหัสเหล่านั้นอาจจำเป็นสำหรับระบบ PayPal ในการประมวลผลคำแนะนำจากคุณ (หรือเว็บไซต์ของคุณ) คุณต้องเก็บรหัสไว้อย่างปลอดภัยและปกป้องให้พ้นจากการถูกเปิดเผยไปยังบุคคลที่คุณไม่ได้อนุญาตให้ดำเนินการในนามของคุณในการติดต่อกับ PayPal คุณตกลงที่จะใช้มาตรการป้องกันที่สมเหตุสมผลตามที่แนะนำโดย PayPal เป็นครั้งคราวเพื่อปกป้องความปลอดภัยของรหัสระบุตัวตนเหล่านั้น ดูภาคผนวก 1 ประกอบ ถ้าคุณไม่สามารถปกป้องความปลอดภัยของรหัสได้ตามที่แนะนำ คุณจะต้องแจ้งให้ PayPal ทราบโดยเร็วที่สุดเพื่อให้ PayPal สามารถยกเลิกและออกรหัสให้ใหม่ นอกจากนี้ PayPal ยังอาจยกเลิกและออกรหัสให้ใหม่ถ้ามีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าความปลอดภัยของรหัสตกอยู่ในความเสี่ยง และหลังจากที่ได้แจ้งให้คุณทราบเมื่อใดก็ตามที่สามารถแจ้งให้ทราบล่วงหน้าได้ตามสมควร
  5. API PayPal จะทำให้การเชื่อมโยงระบบ API และคู่มือการใช้งาน รวมทั้ง SDK (รวมเรียกว่า "เอกสารของ PayPal ") พร้อมใช้แก่คุณ คุณจะต้องปฏิบัติตามเอกสารของ PayPal ในส่วนที่เกี่ยวกับเชื่อมโยงระบบและการใช้ API คุณจะต้องเก็บ ID ผู้ใช้งาน รหัสผ่าน และรหัสการเข้าใช้งานอื่นๆ ทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับบริการและใบอนุญาต API ให้เป็นความลับและปลอดภัยจากบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาตทั้งหมด คุณจะยุติสิทธิ์การเข้าถึงของผู้ใช้ใดๆ ที่หยุดกระทำการตามที่ได้รับมอบอำนาจในนามของคุณทันทีไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม รวมถึงเนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงสถานะการจ้างงานหรือในกรณีที่มีการโจรกรรม ความสูญเสีย หรือการเปิดเผยที่ได้รับอนุญาต หรือการใช้ ID ผู้ใช้งานดังกล่าวในทางที่ผิด คุณตกลงที่จะแจ้งให้ PayPal ทราบทันทีเมื่อได้ล่วงรู้ถึงการใช้ ID ผู้ใช้งานหรือรหัสผ่านของคุณโดยไม่ได้รับอนุญาต คุณจะต้องรับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวต่อ (i) การอัปเดตรหัสผ่านในการเข้าใช้งานบริการของคุณเป็นระยะๆ และ (ii) การสร้างรหัสผ่านที่มี "ความรัดกุม" อย่างสมเหตุสมผลภายใต้สถานการณ์ต่างๆ ID ผู้ใช้งานคือทรัพย์สินของ PayPal และอาจถูกเพิกถอนหรือถูกยกเลิกโดย PayPal ได้ทันทีถ้าคุณแบ่งปันกับบุคคลภายนอกใดๆ หรือฝ่าฝืนใบอนุญาต API นี้ ในส่วนที่เกี่ยวกับการใช้ API คุณจะต้องไม่ดำเนินการใดๆ ดังต่อไปนี้: (i) ขาย โอน ให้ใช้สิทธิช่วง หรือเปิดเผย ID ผู้ใช้งานของคุณแก่บุคคลภายนอกใดๆ (นอกเหนือจากผู้ให้บริการภายนอก) (ii) ขาย โอน ให้ใช้สิทธิช่วง และ/หรือโอนผลประโยชน์ใดๆ ที่มีต่อข้อมูลลับของ PayPal ที่เข้าถึงโดย API (iii) รวบรวมข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลของลูกค้าใดๆ ที่เข้าถึงได้ผ่าน API โดยไม่ได้รับอนุญาตโดยชัดแจ้งจากลูกค้ารายนั้น () จัดหาบริการไทม์แชร์ บริการสำนักงานบริการ บริการผู้ให้บริการแอปพลิเคชัน หรือบริการที่คล้ายกันแก่บุคคลภายนอกอื่นใด และ (v) สร้างอินเตอร์เฟซหรือเชื่อมต่อบริการ หรือใบอนุญาต API กับซอฟต์แวร์หรือระบบคอมพิวเตอร์อื่นใดโดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก PayPal ล่วงหน้า PayPal จะไม่รับผิดชอบหรือรับผิดต่อประสิทธิภาพของบริการ ในกรณีที่ไม่ได้ใช้บริการตามข้อตกลงฉบับนี้ หรือคําแนะนําการใช้งานใดๆ ที่ PayPal กําหนดไว้
  6. ไม่มีการรับประกัน บริการและเอกสารประกอบทั้งหมดจัดไว้ให้แก่คุณ "ตามสภาพที่เป็นอยู่" ตามขอบเขตที่กฎหมายอนุญาต PayPal ไม่ได้ให้หรือเสนอการรับประกันใดๆ ทั้งโดยชัดแจ้งหรือโดยนัย โดยผลบังคับแห่งกฎหมายหรืออื่นใด ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับบริการของคุณ ซอฟต์แวร์ที่ได้รับใบอนุญาต หรือเอกสารของผู้ใช้บริการที่ให้ไว้ ซึ่งรวมถึงโดยไม่จํากัดเฉพาะการรับประกันใดๆ เกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ การไม่ละเมิดสิทธิ ความสามารถในการขาย หรือความเหมาะสมเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ PayPal ไม่รับประกันว่าบริการจะต่อเนื่องหรือไม่มีข้อผิดพลาด PayPal ไม่รับประกัน รับรอง หรือให้คำมั่นว่าบริการและฟีเจอร์ที่เกี่ยวข้องซึ่งช่วยให้คุณสามารถตรวจจับหรือลดการทำรายการที่ฉ้อโกงให้เหลือน้อยที่สุดได้ จะค้นพบหรือป้องกันการทำรายการที่ไม่ถูกต้องหรือฉ้อโกงได้ทั้งหมด PayPal จะไม่รับผิดชอบต่อการประมวลผลการทำรายการที่ไม่ถูกต้องหรือเป็นการฉ้อโกงใดๆ ไม่มีสิ่งใดที่ PayPal จัดให้ไว้ภายใต้ข้อตกลงของบัตรนี้หรืออื่นใดสำหรับบริการของคุณที่ได้รับอนุญาตจาก PayPal ให้รวมการรับประกัน และไม่มีภาระหน้าที่หรือความรับผิดใดๆ ที่จะเกิดขึ้นหรือเป็นผลจากการที่ PayPal ให้คำแนะนำทางเทคนิค การตั้งโปรแกรม หรือบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ ซอฟต์แวร์ที่ได้รับอนุญาต และเอกสารผู้ใช้ที่จัดให้ไว้ (รวมถึงโดยไม่จํากัดเฉพาะบริการที่อาจช่วยคุณในการตั้งค่าบริการ) PayPal ขอแนะนำให้คุณทดสอบการใช้บริการที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียดเนื่องจาก PayPal จะไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใดๆ ที่เกิดจากการใช้บริการ
  7. การเชื่อมโยงระบบที่โฮสต์โดย PayPal และทรัพย์สินทางปัญญาของคุณ คุณได้มอบใบอนุญาตแบบปลอดค่าลิขสิทธิ์ ไม่ผูกขาดทั่วโลกให้แก่ PayPal ในการใช้ชื่อ รูปภาพ โลโก้ เครื่องหมายการค้า เครื่องหมายบริการ และ/หรือชื่อทางการค้าของคุณหรือบริษัทในเครือตามที่คุณอาจมอบให้แก่ PayPal ในขณะที่ใช้บริการ ("เครื่องหมายของคุณ") เพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยให้คุณสามารถใช้บริการ (รวมถึงโดยไม่จำกัดเฉพาะการปรับแต่งบริการที่โฮสต์ไว้) เพียงอย่างเดียวเท่านั้น กรรมสิทธิ์และความเป็นเจ้าของเครื่องหมายของคุณและค่าความนิยมทั้งหมดที่เกิดจากการใช้งานใดๆ ตามข้อตกลงนี้จะยังคงอยู่กับคุณ คุณรับรองและรับประกันว่าคุณมีอำนาจในการให้สิทธิ์แก่ PayPal ในการใช้เครื่องหมายของคุณและคุณจะชดใช้แก่ PayPal และทำให้ PayPal ได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่และต่อเนื่องจากข้อเรียกร้องหรือการสูญเสียใดๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้เครื่องหมายของคุณในกรณีที่เกี่ยวกับบริการ

8. ข้อกำหนดของธนาคารสำหรับการทำรายการผ่านบัตร

PayPal ใช้บริการต่างๆ จากพันธมิตรด้านการธนาคารในการประมวลผลการทำรายการผ่านบัตร ซึ่งรวมถึงการชำระเงินจากบัตรโดยตรงให้คุณ และการทำรายการผ่านบัตรที่เป็นแหล่งเงินสำหรับการชำระเงินผ่าน PayPal ให้แก่คุณ ภาคผนวก 2 ด้านล่างมีผลบังคับใช้กับบริการเหล่านั้น ในการยอมรับข้อตกลงของบัตรนี้ คุณยังยอมรับข้อกำหนดในการทำรายการผ่านบัตรในภาคผนวก 2 ด้วย ซึ่งข้อกำหนดดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงของบัตรนี้

9. การยกเลิกและการระงับ

  1. โดยคุณ PayPal อาจยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ได้ตามที่ต้องการโดยดำเนินการใดๆ ต่อไปนี้:
    1. ส่งหนังสือไปยังฝ่ายบริการลูกค้าของ PayPal ล่วงหน้า 30 วันเพื่อแจ้งความประสงค์ของคุณที่จะยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ ฝ่ายบริการลูกค้าของ PayPal จะยืนยันการยกเลิกผ่านทางอีเมล ตัวเลือกนี้ช่วยให้คุณหยุดใช้บริการและชำระเงินค่าบริการ แต่บัญชี PayPal ของคุณยังคงเปิดอยู่และสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป หรือ
    2. ปิดบัญชี PayPal ที่คุณใช้กับบริการของคุณ (ดูข้อมูลเพิ่มเติมในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ)
  2. โดย PayPal PayPal อาจยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ได้ตามที่ต้องการโดยดำเนินการใดๆ ต่อไปนี้:
    1. แจ้งให้คุณทราบล่วงหน้า 30 วันถึงความประสงค์ของ PayPal ที่จะยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ โดยส่งอีเมลไปยังที่อยู่อีเมลที่คุณลงทะเบียนไว้ที่เชื่อมโยงกับบัญชี PayPal ของคุณ ตัวเลือกนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ และบัญชี PayPal ของคุณยังคงเปิดอยู่
    2. การยกเลิกสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการที่มีผลกับบัญชี PayPal ที่ใช้กับบริการของคุณ
  3. โดยเหตุการณ์ PayPal อาจยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ได้ทันทีโดยไม่ต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าถ้าคุณ:
    1. ละเมิดข้อตกลงของบัตรนี้หรือสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ
    2. ไม่สามารถชำระเงินหรือปฏิบัติตามภาระหน้าที่ของคุณภายใต้ข้อตกลงฉบับนี้ หรือข้อตกลงใดๆ ของ PayPal ที่มีผลบังคับใช้กับบริการ
    3. ไม่สามารถชำระหนี้ของคุณ ยอมรับว่าคุณไม่สามารถชำระหนี้ หรือเป็นบุคคลล้มละลาย
    4. มีการบังคับคดี การยึดทรัพย์ หรือการดำเนินการที่คล้ายคลึงกันต่อคุณหรือบังคับใช้กับคุณหรือสินทรัพย์ของคุณ หรือหากมีการออกคำสั่งให้อายัดทรัพย์จากคุณ
    5. กลายเป็นคนในบังคับของการร้องทุกข์ใดๆ ที่ยื่น คำสั่งศาลที่มีขึ้น หรือการลงมติสำหรับการชำระหนี้ การจัดการทรัพย์สิน การล้มละลาย หรือการยุบกิจการของคุณทั้งหมดหรือเฉพาะส่วนที่สำคัญ ยกเว้นในกรณีที่มีการเสนอให้ควบกิจการเป็นบริษัทใหม่หรือการปรับโครงสร้างกิจการตามข้อกำหนดที่ PayPal อนุมัติไว้ก่อนหน้านี้
    6. สูญเสียการควบคุมอย่างสมบูรณ์และไม่จำกัดต่อสินทรัพย์ทั้งหมดหรือบางส่วนเนื่องจากการแต่งตั้งผู้รับ ผู้จัดการ ผู้ดูแลผลประโยชน์ ผู้ชำระบัญชี หรือเจ้าหน้าที่ที่คล้ายคลึงกัน
    7. เข้าทำหรือเสนอการประนอมหนี้หรือการจัดชำระหนี้กับเจ้าหนี้ของคุณ (หรือกลุ่มเจ้าหนี้ประเภทต่างๆ)
    8. มีการเปลี่ยนแปลงในทางลบที่สำคัญต่อธุรกิจ กิจการ หรือสภาวะทางการเงินของคุณ หรือ
    9. คุณให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องในการสมัครใช้บริการหรือในการติดต่อกับเรา
    10. เราตัดสินใจตามดุลยพินิจของเราว่าคุณไม่มีสิทธิ์ใช้บริการเนื่องจากมีความเสี่ยงในระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับบัญชี PayPal ของคุณ หรือด้วยเหตุผลอื่นใด หรือเมื่อมีการร้องขอจากสถาบันผู้รับบัตรหรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรใดๆ หรือ
    11. คุณละเมิดกฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรใดๆ ที่อาจได้รับการแก้ไขเพิ่มเติมโดยสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเป็นครั้งคราว
  4. ผลของการยกเลิก เมื่อข้อตกลงของบัตรนี้ถูกยกเลิก คุณตกลงว่าจะดำเนินการทำรายการผ่านบัตรทั้งหมดที่ค้างไว้ให้เสร็จสิ้น ลบโลโก้บัตรทั้งหมดออกโดยทันที และหยุดรับการทำรายการใหม่ผ่านบริการที่ยกเลิก และ PayPal อาจป้องกันหรือขัดขวางไม่ให้คุณใช้บริการดังกล่าวหลังการยกเลิก อย่างไรก็ตาม ถ้าคุณใช้บริการหลังจากยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ ข้อตกลงของบัตรนี้จะมีผลบังคับใช้กับการใช้บริการดังกล่าวต่อไปจนกว่าคุณจะทำให้การยกเลิกมีผลบังคับใช้โดยการหยุดใช้บริการดังกล่าว ข้อต่อไปนี้ในข้อตกลงของบัตรนี้จะคงอยู่ต่อไปหลังการยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ และจะยังคงมีผลบังคับใช้อย่างเต็มที่ต่อไป: ข้อ 2, 5(a) และ 9 การยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้จะไม่มีผลกระทบต่อสิทธิ์ การเยียวยา หรือภาระหน้าที่ของคู่สัญญาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่พอกพูนขึ้นหรือครบกำหนดชำระก่อนที่จะมีการยกเลิก และคุณจะไม่ได้รับการคืนเงินค่าธรรมเนียมรายเดือนใดๆ ที่ชำระไว้ก่อนที่จะมีการยกเลิก
  5. การละเมิดและการระงับ ถ้าคุณละเมิดข้อตกลงของบัตรนี้ สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ หรือข้อกำหนดด้านความปลอดภัยที่กำหนดโดย PCI DSS, PayPal อาจระงับการใช้บริการของคุณทันที PayPal อาจกำหนดให้คุณต้องดำเนินการแก้ไขตามที่ระบุไว้เพื่อแก้ไขปัญหาการละเมิดและทำให้การระงับถูกยกเลิก แม้ว่าจะไม่มีสิ่งใดในข้อตกลงของบัตรนี้ที่ป้องกันไม่ให้ PayPal แสวงหาการเยียวยาอื่นใดที่อาจมีต่อการละเมิดก็ตาม นอกจากนี้ ถ้า PayPal มีเหตุอันควรให้สงสัยว่าคุณอาจละเมิดข้อตกลงของบัตรนี้ หรือ PCI DSS, PayPal อาจระงับการใช้บริการของคุณที่รอการตรวจสอบเพิ่มเติม

10. การป้องกันการฉ้อโกง

ถ้าคุณได้รับการเสนอและเลือกที่จะใช้บริการป้องกันการฉ้อโกง ข้อกำหนดในภาคผนวก 3 ด้านล่างนี้จะบังคับใช้กับการใช้งานฟังก์ชันดังกล่าวของคุณ

11. เบ็ดเตล็ด

  1. อนาคตของบริการ PayPal ยังคงมีดุลยพินิจแต่เพียงผู้เดียวและโดยสมบูรณ์ในการกำหนด
    1. แนวทางและการพัฒนาบริการในอนาคต
    2. การปรับปรุงใดๆ ที่จะดำเนินการต่อบริการรวมทั้งเวลาที่จะทำการปรับปรุงและ
    3. ว่าข้อบกพร่องจะได้รับการแก้ไขหรือไม่และได้รับการแก้ไขเมื่อใด รวมทั้งจะมีการแนะนำฟีเจอร์ใหม่หรือไม่
    4. PayPal ยินดีรับฟังความคิดเห็นจากผู้ใช้ในการวางแผนอนาคตของบริการแต่ไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามความคิดเห็นที่ได้รับ ถ้าคุณให้ความคิดเห็นแก่เรา คุณตกลงที่จะไม่เรียกร้องผลประโยชน์ในทรัพย์สินทางปัญญาจากความคิดเห็นของคุณ
  2. การชดใช้ คุณตกลงที่จะชดใช้แก่ PayPal และทำให้ PayPal ได้รับการชดใช้อย่างเต็มที่และต่อเนื่องจากการสูญเสียโดยตรง ความเสียหายและความรับผิด และจากข้อเรียกร้อง การทวงถาม หรือค่าใช้จ่ายใดๆ (รวมถึงค่าธรรมเนียมทนายความที่สมเหตุสมผล) ที่เกิดขึ้นอันเกี่ยวข้องกับบุคคลภายนอกใดๆ (รวมถึงลูกค้าร่วม) และที่เกิดขึ้น (i) จากการที่คุณละเมิดข้อตกลงของบัตรนี้ สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ และเอกสารที่รวมอยู่ในข้อตกลงและสัญญาดังกล่าวโดยการอ้างอิง(รวมถึงนโยบายการใช้บริการ) (ii) การใช้บริการของคุณ ซึ่งรวมถึงโดยไม่จํากัดเฉพาะการปฏิเสธชำระเงิน การคืนเงิน และค่าปรับและบทลงโทษของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร (iii) การทำรายการที่ฉ้อโกงหรือเหตุการณ์เกี่ยวกับข้อมูล หรือ (iv) การละเมิดกฎหมายใดๆ
  3. การมอบหมาย การแก้ไข และการสละสิทธิ์ คุณต้องไม่มอบหมายข้อตกลงของบัตรนี้โดยไม่ได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรจาก PayPal ก่อน PayPal อาจมอบหมาย ทำขึ้นใหม่ หรือโอนข้อตกลงของบัตรนี้โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากคุณโดยการแจ้งให้คุณทราบ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต้องไม่แก้ไขข้อตกลงของบัตรนี้หรือสละสิทธิ์ใดๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ ยกเว้นเมื่อจัดทำเอกสารเป็นลายลักษณ์อักษรที่ลงนามโดยทั้งสองฝ่าย การที่เราไม่ดำเนินการกับการที่คุณหรือผู้อื่นละเมิดภาระหน้าที่ใดๆ ไม่มีผลเป็นการสละสิทธิ์ของเราในการดำเนินการกับการละเมิดภาระหน้าที่ในครั้งต่อไปหรือการละเมิดที่คล้ายคลึงกัน
  4. การปฏิบัติตามกฎหมาย คุณตกลงที่จะปฏิบัติตามกฎหมาย กฎ หรือข้อบังคับที่บังคับใช้ทั้งหมด รวมถึงกฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร
  5. กฎหมายที่บังคับและเขตอำนาจศาล ข้อตกลงของบัตรนี้อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายของสิงคโปร์ คู่สัญญาทั้งสองฝ่ายต้องยอมรับเขตอำนาจศาลที่ไม่มีอำนาจผูกขาดของศาลสิงคโปร์

12. คำจำกัดความ

คำศัพท์ที่เป็นตัวหนาที่ไม่ได้ระบุไว้ในข้อนี้มีคำนิยามอยู่ในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ หรือข้างต้นในข้อตกลงของบัตรนี้

ก. สถาบันผู้รับบัตร: หมายถึง สถาบันการเงินหรือธนาคารที่ให้บริการแก่คุณเพื่อให้คุณสามารถ (ก) รับชำระเงินด้วยบัตรจากผู้ถือบัตร และ (ข) ได้รับมูลค่าที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการผ่านบัตร

ข. วันที่เปิดใช้งาน: วันที่ที่คุณทำตามขั้นตอนทั้งหมดสำหรับ "การเริ่มต้นใช้งาน" ตามที่ระบุไว้ในข้อ 1(ก) ข้างต้น

ค. การชําระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตขั้นสูง: หมายถึงชุดฟังก์ชันการทํางานที่ประกอบด้วย API การชําระเงินด้วยบัตรเครดิตและบัตรเดบิตขั้นสูง (เป็นอินเทอร์เฟซออนไลน์มาตรฐาน) และการป้องกันการฉ้อโกง (เป็นบริการเสริมเพิ่มเติม) ชุดฟังก์ชันการทํางานนี้ยังอาจรวมถึงฟีเจอร์เสริม (เช่น การเชื่อมโยงระบบกระเป๋าสตางค์ของบุคคลภายนอกที่มีสิทธิ์) ซึ่งคุณต้องยอมรับข้อกําหนดเพิ่มเติมของบุคคลภายนอกก่อนจึงจะสามารถใช้ฟีเจอร์เสริมดังกล่าวได้ ซึ่งในกรณีดังกล่าว จะมีการแจ้งข้อกําหนดเพิ่มเติมของบุคคลภายนอกให้คุณทราบในขณะที่ลงทะเบียน

ง. กฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร: ภาระหน้าที่ กฎ และแนวทางที่เกี่ยวข้องที่ออกโดย Visa สหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชียแปซิฟิก แคนาดา และภูมิภาคอื่นๆ ของ Visa, Mastercard International Incorporated, บริษัท American Express หรือสถาบันการเงินผู้ออกบัตรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง รวมถึงโดยไม่จํากัดเฉพาะ Visa Cardholder Information Security Program (CISP), Visa Account Information Security Program (AISP), Mastercard Site Data Protection Program และ PCI DSS คุณสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้โดยไปที่ URL ต่อไปนี้: www.visaeurope.com, www.visaeurope.com/en/businesses__retailers/payment_security/overview.aspx และ https://www.mastercard.com/sdp

จ. AVS: ข้อมูลที่ถูกส่งคืนโดย "ระบบตรวจสอบยืนยันที่อยู่" ที่ดําเนินการโดยหรือในนามของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร ซึ่งจะเปรียบเทียบข้อมูลที่อยู่ที่ผู้ถือบัตรที่แท้จริงให้ไว้กับข้อมูลที่อยู่ในฐานข้อมูลบัตรของผู้ออกบัตร

ฉ. สถาบันการเงินผู้ออกบัตร: บริษัทหรือกลุ่มสถาบันการเงินที่ออกกฎระเบียบควบคุมการทำรายการผ่านบัตรและเครือข่ายชำระเงินต่างๆ ที่มีแบรนด์ของบริษัทหรือกลุ่มสถาบันการเงินเหล่านั้นกำกับอยู่ ตัวอย่างเช่น (ถ้ามี) Visa สหรัฐอเมริกา, Visa ยุโรป และ Visa ในภูมิภาคอื่นๆ, Mastercard International Incorporated, บริษัท American Express และองค์กรที่คล้ายคลึงกัน

ช. ข้อมูลบัตร: ข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงินทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการผ่านบัตร รวมถึงข้อมูลที่บันทึกไว้ในบัตรโดยตรง (ไม่ว่าจะในรูปแบบที่มนุษย์สามารถอ่านได้หรือแบบดิจิทัล) พร้อมทั้งชื่อและที่อยู่ของผู้ถือบัตร และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นสำหรับการประมวลผลการทำรายการผ่านบัตร

ซ. การทำรายการผ่านบัตร: การชำระเงินโดยใช้บัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต บัตร American Express หรือวิธีการชำระเงินอื่นใดโดยใช้สิ่งของที่มีข้อมูลอยู่ในนั้น ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อให้เก็บรักษาไว้ในความครอบครองของผู้ชำระเงิน บริการนี้รองรับเฉพาะการทำรายการผ่านบัตรบางประเภทเท่านั้น ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ PayPal

ฌ. ข้อมูล CVV2: ตัวเลขสามหลักที่พิมพ์ทางด้านขวาของหมายเลขบัตรในแถบลายเซ็นที่ด้านหลังบัตร (สำหรับบัตร American Express รหัสคือตัวเลขสี่หลักแบบไม่นูนที่พิมพ์เหนือหมายเลขบัตรที่ด้านหน้าของบัตร American Express) ข้อมูล CVV2 จะเชื่อมโยงกับบัตรพลาสติกแต่ละใบโดยไม่ซ้ำกัน และผูกหมายเลขบัญชีบัตรกับบัตรพลาสติก

ญ. ค่าธรรมเนียมรายเดือน: ค่าธรรมเนียมที่ต้องชําระเป็นรายเดือนตามที่กำหนดไว้ในข้อ 2 ข้างต้น

ฎ. ปุ่มชำระเงินของ PayPal" หมายถึงที่ที่ PayPal เป็นตัวเลือกการชำระเงินในเว็บไซต์ของผู้ค้าในขั้นตอนการชำระเงิน ซึ่งการชำระเงินนั้นประมวลผลโดย PayPal ผ่าน PayPal API โดยใช้เงินจากบัญชี PayPal ของผู้ใช้โดยตรง

ฏ. "บริการของ PayPal" หรือ “บริการ” หมายถึงบริการชำระเงินผ่านบัตรออนไลน์ หรือข้อเสนออื่นๆ ที่ระบุไว้หรือให้ไว้ตามข้อตกลงของบัตรนี้ บริการดังกล่าวอาจได้รับการอธิบายไว้อย่างละเอียดมากขึ้นในเว็บไซต์ของเรา

ฐ. เว็บไซต์ PayPal: หมายถึง www.paypal.com/sg

ฑ. PCI DSS: มาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน กล่าวคือ รายละเอียดที่กำหนดโดยสถาบันการเงินผู้ออกบัตรเพื่อรับประกันความปลอดภัยของข้อมูลในการทำรายการผ่านบัตร สามารถดูสำเนาของ PCI DSS ทางออนไลน์ได้ที่ https://www.pcisecuritystandards.org

ฒ. การเรียกเก็บเงินเป็นงวด หมายถึง ฟีเจอร์เสริมที่เมื่อได้รับความยินยอมจากลูกค้าของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าการชำระเงินที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาและตามความถี่ที่ระบุ ดังที่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ในเว็บไซต์ PayPal

ณ. การชำระเงินเป็นงวด หมายถึง ฟีเจอร์เสริมที่เมื่อได้รับความยินยอมจากลูกค้าของคุณ จะช่วยให้คุณสามารถตั้งค่าการชำระเงินที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาและตามความถี่ที่ระบุ ดังที่อธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมไว้ในเว็บไซต์ PayPal

ด. ลูกค้าร่วม: ผู้ที่มีทั้งบัญชี PayPal และเป็นลูกค้าของคุณด้วย

ต. สัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ: สัญญาที่คุณทำไว้กับ PayPal ทางออนไลน์เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการลงทะเบียนออนไลน์ที่จำเป็นต่อการเปิดบัญชี PayPal ซึ่งอาจมีการแก้ไขเพิ่มเติมเป็นครั้งคราว สามารถอ่านสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการฉบับปัจจุบันได้จากลิงก์ที่ส่วนท้ายของแทบทุกหน้าในเว็บไซต์ PayPal โดยจะประกอบด้วยนโยบายบางอย่าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งนโยบายการใช้บริการและนโยบายความเป็นส่วนตัว ซึ่งมีการระบุไว้บนเว็บไซต์ PayPal ด้วย

ภาคผนวก 1 – ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูล

ข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูล

 

  1. ภาระหน้าที่เกี่ยวกับรหัสความปลอดภัยของผู้ค้า
    1. ผู้ค้ารับทราบและตกลงว่าตนเป็นผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียวในการรักษาความปลอดภัยและการควบคุมที่เพียงพอสำหรับ ID ทั้งหมด รหัสผ่าน หรือรหัสความปลอดภัยอื่นๆ (เรียกรวมกันว่า "รหัสความปลอดภัย") ที่ออกให้แก่ผู้ค้าโดย PayPal หรือสถาบันผู้รับบัตร
    2. ผู้ค้าตกลงที่จะจำกัดให้มีการใช้งานและการเข้าถึงรหัสความปลอดภัยของผู้ค้าเฉพาะสำหรับพนักงาน ตัวแทนหรือผู้รับเหมาของผู้ค้าเท่านั้น ตามความจำเป็นอันสมควรต่อการอนุญาตให้ผู้ค้าใช้บริการที่เกี่ยวข้องใดๆ และเพื่อให้แน่ใจว่าบุคคลดังกล่าวปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในภาคผนวกนี้หรือคำแนะนำด้านความปลอดภัยอื่นๆ ที่ PayPal หรือสถาบันผู้รับบัตรจัดไว้ให้ผู้ค้า (แล้วแต่ว่าจะเป็นกรณีใด)
  1. ผู้ค้ามีหน้าที่ปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูล
    1. ผู้ค้ารับทราบและตกลงว่าตนมีหน้าที่รับผิดชอบอย่างเต็มที่ในการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลบนเว็บไซต์ของตนเองหรือที่อยู่ในการครอบครองหรือการควบคุมของตน
    2. ผู้ค้าตกลงที่จะดำเนินการต่อไปนี้ที่เกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่สามารถระบุตัวตนได้ของลูกค้า และการรวบรวม การรักษาความปลอดภัยและการเผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์ของผู้ค้า:
      1. ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่บังคับใช้ทั้งหมด
      2. ปฏิบัติตามกฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร
      3. ปฏิบัติตามมาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับอุตสาหกรรมบัตรชำระเงิน (PCI DSS) มาตรฐานด้านความปลอดภัยของข้อมูลสำหรับแอปพลิเคชันการชำระเงิน (PA DSS) และข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูลของสถาบันการเงินผู้ออกบัตร (ถ้ามี) รวมถึงโดยไม่จํากัดเฉพาะ
        1. ติดตั้งและบำรุงรักษาการกำหนดค่าไฟร์วอลล์เพื่อปกป้องข้อมูล
        2. ไม่ใช้ค่าเริ่มต้นที่ผู้ขายให้มาสำหรับรหัสผ่านของระบบและพารามิเตอร์ความปลอดภัยอื่นๆ
        3. ปกป้องข้อมูลที่จัดเก็บไว้
        4. เข้ารหัสการส่งข้อมูลของผู้ถือบัตรและข้อมูลที่ละเอียดอ่อนไปยังเครือข่ายสาธารณะ
        5. ใช้งานและอัปเดตซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอย่างสม่ำเสมอ
        6. พัฒนาและบำรุงรักษาระบบและการใช้งานที่ปลอดภัย
        7. จำกัดการเข้าถึงข้อมูลตามที่จำเป็นต้องทราบในการทำธุรกิจเท่านั้น
        8. กำหนด ID ที่ไม่ซ้ำกันให้กับแต่ละบุคคลที่มีสิทธิ์เข้าใช้คอมพิวเตอร์
        9. จำกัดการเข้าถึงข้อมูลผู้ถือบัตรในเชิงกายภาพ
        10. ติดตามและตรวจสอบการเข้าถึงทรัพยากรเครือข่ายและข้อมูลผู้ถือบัตรทั้งหมด
        11. ทดสอบระบบและกระบวนการรักษาความปลอดภัยอย่างสม่ำเสมอ และ
        12. จัดทำนโยบายเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของข้อมูล
      4. เมื่อ PayPal ร้องขอ ผู้ค้าจะต้องแสดงหลักฐานแก่ PayPal จนเป็นที่พอใจแก่ PayPal ว่าได้ปฏิบัติตาม PCI DSS ผู้ค้ารับทราบและตกลงว่าไม่มีอะไรในข้อตกลงของบัตรนี้หรือการที่ PayPal ที่จัดหาบริการให้นั้นจะถือว่าผู้ค้าได้ปฏิบัติตาม PCI DSS ไม่ว่าจะโดยผ่าน "ผู้ประเมินความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม" ซึ่งเป็นบุคคลภายนอกหรือไม่ และจะไม่มีการนำเสนอบริการตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎระเบียบดังกล่าวภายใต้ขอบเขตของข้อตกลงของบัตรนี้ ผู้ค้าจะต้องออกแบบ บำรุงรักษา และดำเนินการเว็บไซต์และระบบอื่นๆ ของตนให้สอดคล้องกับ PCI DSS PayPal จะไม่รับผิดชอบค่าใช้จ่ายใดๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณในการปฏิบัติตาม PCI DSS ผู้ค้าตกลงที่จะจัดเตรียมหลักฐานอย่างอิสระโดยออกค่าใช้จ่ายเอง ที่ได้รับจากผู้ประเมินความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม หรือจนเป็นที่พอใจของ PayPal ถ้าผู้ค้าไม่ได้เริ่มต้นการตรวจสอบความปลอดภัยภายใน 10 วันทำการนับแต่ที่ PayPal ร้องขอ PayPal อาจดำเนินการหรือขอรับการตรวจสอบดังกล่าวโดยผู้ค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย PayPal อาจให้คำแนะนำแก่ลูกค้าร่วม ถ้า PayPal มีเหตุผลให้เชื่อได้ว่าอาจกำลังมีการฉ้อโกงหรือกิจกรรมอื่นที่ผิดกฎหมายเกิดขึ้นหรืออาจเกิดขึ้นแล้ว และถ้า PayPal มีเหตุอันควรให้เชื่อได้ว่าการฉ้อโกงหรือกิจกรรมอื่นที่ผิดกฎหมายอาจส่งผลกระทบต่อบัญชี PayPal ของลูกค้าร่วมเหล่านั้น
      5. ทำการสแกนหาจุดอ่อน (ทั้งรายไตรมาสหรือรายปี ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณการทำรายการรายปีของผู้ค้าตามที่ PayPal หรือสถาบันผู้รับบัตรได้แจ้งไว้แก่ผู้ค้า) ของพอร์ตที่สามารถเข้าถึงเว็บของผู้ค้าได้และทำการตรวจสอบ ณ สถานที่ถ้าผู้ค้าทำรายการผ่าน Visa และ/หรือ Mastercard/Maestro หกล้านครั้งต่อปี โดยจะต้องดำเนินการโดยผู้ประเมินความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสม

        สำหรับรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ประเมินความปลอดภัยที่มีคุณสมบัติเหมาะสมของ Visa และ Mastercard สามารถเข้าสู่ระบบได้ที่: http://www.mastercard.com/us/sdp/serviceproviders/compliant_serviceprovider.html or https://www.pcisecuritystandards.org/pdfs/pci_qsa_list.pdf
      6. ประกาศนโยบายความเป็นส่วนตัวไว้อย่างชัดเจนในเว็บไซต์ของผู้ค้าซึ่งสอดคล้องกับกฎหมาย ข้อบังคับ กฎ และแนวทางที่อ้างถึงในวรรคย่อย 3(b) (i) และ 3 (b)(ii) และสอดคล้องกับแนวปฏิบัติทางธุรกิจที่ดี
      7. แจ้งให้ PayPal ทราบเกี่ยวกับตัวแทนใดๆ รวมถึงผู้ให้บริการเว็บโฮสติ้ง, เกตเวย์, ตะกร้าสินค้า หรือผู้ให้บริการที่เป็นบุคคลภายนอกอื่นๆ ที่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลผู้ถือบัตร และตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวแทนดังกล่าวปฏิบัติตาม PCI DSS และภาระหน้าที่ทางกฎหมายในปัจจุบันทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการรวบรวม การรักษาความปลอดภัย และการเผยแพร่ข้อมูลและการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ผู้ค้าจะต้องรับผิดชอบต่อ PayPal สำหรับความเสียหาย การสูญเสีย ค่าใช้จ่าย และ/หรือข้อเรียกร้องใดๆ และทั้งหมดที่กระทำต่อ หรือที่เกิดแก่ PayPal อันเป็นผลจากการที่บุคคลภายนอกเหล่านั้นละเมิดภาระหน้าที่ภายใต้วรรคย่อยนี้
      8. ให้ข้อมูลหรือสิทธิ์การเข้าถึงบันทึกทั้งหมดตามที่จำเป็นแก่ PayPal เพื่อให้แน่ใจว่าผู้ค้าปฏิบัติตามวรรค 3 นี้ และ
      9. แจ้งให้ PayPal ทราบทันทีที่มีการละเมิดความปลอดภัยบันทึกหรือระบบของผู้ค้าตามที่เกี่ยวข้องกับการเข้าถึงและ/หรือการใช้บริการของผู้ค้า
    3. ผู้ค้าตกลงที่จะไม่เก็บข้อมูลหมายเลขประจำตัวบุคคลใดๆ ข้อมูล AVS (บริการตรวจสอบยืนยันที่อยู่) หรือรหัสการตรวจสอบความถูกต้องของบัตร (เช่น ค่าตัวเลขสามหลักที่พิมพ์ลงในแถบลายเซ็นของบัตรส่วนใหญ่ และรหัสตัวเลขสี่หลักที่พิมพ์ที่ด้านหน้าของบัตร American Express) ของผู้ถือบัตรใดๆ หรือข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการชำระเงินอื่นใดของผู้ถือบัตร (ไม่ว่าจะได้รับทางอิเล็กทรอนิกส์ ทางวาจา ทางแฟกซ์ เป็นสำเนาฉบับพิมพ์ หรืออื่นใด) และจะต้องรับผิดชอบค่าปรับใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหรือคำแนะนำของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรใดๆ ที่เกี่ยวข้อง
    4. ผู้ค้ารับทราบและตกลงว่าถ้า PayPal ได้รับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการละเมิดความปลอดภัย หรือข้อมูลของผู้ถือบัตรที่เกี่ยวข้องกับผู้ค้าตกอยู่ในความเสี่ยง ผู้ค้าจะอนุญาตให้ผู้สอบบัญชีที่เป็นบุคคลภายนอกซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบันการเงินผู้ออกบัตรดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยของระบบ มาตรการควบคุม และสิ่งอำนวยความสะดวกของผู้ค้า และเพื่อออกรายงานให้ PayPal และสถาบันการเงินผู้ออกบัตร ถ้าผู้ค้าไม่สามารถเริ่มต้นกระบวนการดังกล่าวได้หลังจากที่ PayPal ร้องขอให้ดำเนินการดังกล่าว ผู้ค้าจะอนุญาตให้ PayPal ดำเนินการดังกล่าวโดยผู้ค้าเป็นผู้ออกค่าใช้จ่าย
    5. PayPal อาจระงับไม่ให้ผู้ค้าเข้าถึงหรือใช้บริการใดๆ หรือยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้โดยทันทีโดยไม่แจ้งให้ทราบเมื่อได้รับแจ้งว่าผู้ค้าอาจละเมิดหรือกำลังละเมิดข้อกำหนดใดๆ ที่ระบุไว้ในวรรค 3 นี้
    6. ถ้า PayPal ระงับไม่ให้คุณเข้าถึงหรือใช้บริการใดๆ PayPal จะระบุไว้ในประกาศแจ้งให้ผู้ค้าทราบและอธิบายพื้นฐานการดำเนินการของ PayPal ในการระงับผู้ค้า รวมถึงมาตรการที่ไตร่ตรองไว้อย่างสมเหตุสมผลเพื่อแก้ไขการละเมิด การระงับไม่ให้ผู้ค้าเข้าถึงหรือใช้บริการใดๆ ของ PayPal จะยังคงมีผลต่อไปจนถึงระยะเวลาที่ PayPal พึงพอใจว่าผู้ค้าได้แก้ไขการละเมิดที่เกี่ยวข้องแล้ว
  1. ภาระหน้าที่ของ PayPal ในการรักษาข้อมูลให้ปลอดภัย

เมื่อประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ถือบัตรที่มีข้อมูลการทำรายการที่ผู้ค้าส่งให้ PayPal, PayPal จะตรวจสอบให้แน่ใจตลอดเวลาว่ามาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้นำมาใช้ในการจัดเก็บ การส่ง หรือการประมวลผลอื่นใดสำหรับข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าว:

  1. เป็นไปตามกฎหมายและข้อบังคับที่บังคับใช้ทั้งหมด และ
  2. ใช้การเข้ารหัสและวิธีการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานอุตสาหกรรมหรือดีกว่าตามที่เหมาะสมสำหรับการนำมาใช้โดยสถาบันการเงิน
  1. การใช้ข้อมูลผู้ถือบัตรโดยผู้ค้า
    1. ผู้ค้าตกลงที่จะใช้ เปิดเผย หรือประมวลผลข้อมูลผู้ถือบัตรใดๆ ที่ได้รับจากการทำรายการผ่านบัตรเท่านั้น (รวมถึงชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัญชีบัตรของผู้ถือบัตร) รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ในการอนุมัติ ดำเนินการ และชำระบัญชีการทำรายการผ่านบัตรและระงับข้อพิพาทเกี่ยวกับการปฏิเสธชำระเงินหรือการตีคืนการชำระเงิน คำขอข้อมูลการเรียกเก็บเงินจากบัตร หรือปัญหาที่คล้ายคลึงกันที่เกี่ยวข้องกับการทำรายการผ่านบัตรเท่านั้น ผู้ค้าจะสามารถประมวลผลข้อมูลผู้ถือบัตรในลักษณะที่แตกต่างจากที่ระบุไว้ในวรรคนี้ได้ก็ต่อเมื่อผู้ค้าได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรล่วงหน้าจาก PayPal และสถาบันการเงินผู้ออกบัตรที่เกี่ยวข้องแต่ละราย ธนาคารที่ออกบัตรและผู้ถือบัตร หรือเป็นไปตามคำสั่งศาลหรือตามที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างอื่น
    2. ผู้ค้าตกลงที่จะ:
      1. กำหนดและบำรุงรักษามาตรการควบคุมที่เพียงพอสำหรับ จำกัดการเข้าใช้งาน และทำให้บันทึกทั้งหมดที่มีหมายเลขบัญชีผู้ถือบัตรและสิ่งที่พิมพ์อยู่บนบัตรไม่สามารถอ่านได้ก่อนที่จะลบทิ้ง
      2. ไม่ขายหรือเผยแพร่ข้อมูลผู้ถือบัตรใดๆ ที่ได้รับจากการทำรายการผ่านบัตรที่เก็บไว้ในฐานข้อมูลหรืออย่างอื่น (รวมถึงชื่อ ที่อยู่ และหมายเลขบัญชีบัตรของผู้ถือบัตร)
      3. ไม่เก็บรักษาหรือจัดเก็บข้อมูลแถบแม่เหล็กหรือสำเนาฉบับพิมพ์ที่มีข้อมูลผู้ถือบัตร (รวมถึงแฟกซ์) หลังจากที่ได้อนุมัติการทำรายการแล้ว และ
      4. ไม่ทำสำเนาลายเซ็นผู้ถือบัตรที่ได้รับทางอิเล็กทรอนิกส์ ยกเว้นเมื่อมีการร้องขอโดยเฉพาะจาก PayPal (ซึ่งผู้ค้าตกลงที่จะปฏิบัติตามเมื่อได้รับคำขอดังกล่าว)
    3. ผู้ค้ารับทราบว่ากฎของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรห้ามมิให้ขายหรือเปิดเผยฐานข้อมูลที่มีหมายเลขบัญชีผู้ถือบัตร ข้อมูลส่วนบุคคล หรือข้อมูลการทำรายการอื่นๆ ของสถาบันการเงินผู้ออกบัตรให้กับบุคคลภายนอกในฐานะที่เป็นทรัพย์สินของธุรกิจที่ล้มเหลว ในกรณีดังกล่าว ผู้ค้าตกลงว่าจะมีการส่งคืนข้อมูลการทำรายการไปยังสถาบันผู้รับบัตรหรือมีการจัดส่งหลักฐานที่ยอมรับได้ของการทำลายข้อมูลนี้
    4. ผู้ค้าตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบและรับผิดต่อการปฏิบัติตามวรรคนี้โดยผู้ประมวลผลที่เป็นบุคคลภายนอก บริการโฮสติ้ง หรือตัวแทนอื่นๆ ของผู้ค้าที่ได้รับการว่าจ้างให้ทำการประมวลผลหรือจัดเก็บข้อมูลผู้ถือบัตร ผู้ค้าตกลงที่จะแจ้งให้ PayPal ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงบุคคลภายนอกใดๆ ที่ได้รับการว่าจ้างโดยผู้ประมวลผลที่เป็นบุคคลภายนอก บริการโฮสติ้ง หรือตัวแทนอื่นๆ ก่อนที่ผู้ค้าจะทำการว่าจ้างบุคคลเหล่านั้น และแจ้งให้ PayPal ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรเพิ่มเติมโดยทันทีเมื่อมีการเข้าถึงข้อมูลการทำรายการโดยบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต
    5. เว้นแต่เมื่อผู้ค้าได้รับและได้บันทึกความยินยอมอย่างชัดแจ้งจากผู้ถือบัตร:
      1. ห้ามไม่ให้ผู้ค้าเก็บ ติดตาม ตรวจสอบ หรือจัดเก็บข้อมูลบัตรใดๆ หรือใช้ข้อมูลบัตรนอกเหนือขอบเขตของการทำรายการใดๆ ที่ได้รับข้อมูลบัตรนั้นมา และ
      2. ผู้ค้าต้องลบข้อมูลบัตรทั้งหมดออกจากระบบของตนและสถานที่อื่นๆ ที่จัดเก็บข้อมูลบัตรไว้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังจากที่ได้รับการตัดสินใจเกี่ยวกับการอนุมัติที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลบัตรดังกล่าว
    6. กรณีที่ผู้ถือบัตรยินยอมให้ผู้ค้าเก็บข้อมูลบัตรไว้ ผู้ค้าสามารถทำเช่นนั้นได้เฉพาะภายในขอบเขตที่ข้อมูลบัตรมีความจำเป็นสำหรับการประมวลผลการทำรายการชำระเงินเท่านั้น ผู้ค้าจะต้องไม่ให้หรือเปิดเผยข้อมูลบัตรที่เก็บไว้แก่ใครก็ตาม รวมทั้งที่เป็นส่วนหนึ่งของการขายธุรกิจของตนด้วย นอกจากนี้ และโดยไม่คำนึงถึงสิ่งใดที่ขัดแย้งกัน ผู้ค้าจะต้องไม่เก็บหรือเปิดเผยข้อมูล CVV2 แม้ว่าจะได้รับความยินยอมจากผู้ถือบัตรก็ตาม
  1. การใช้ผู้ให้บริการทางเทคนิคของผู้ค้า
    1. ผู้ค้าอาจใช้ให้บุคคลภายนอกดำเนินการตามภาระหน้าที่บางอย่างของผู้ค้าตามที่ระบุไว้ในภาคผนวกนี้เมื่อได้รับความยินยอมเป็นลายลักษณ์อักษรอย่างชัดแจ้งจากเรา ซึ่งอาจมีเงื่อนไขบางอย่างเกี่ยวกับการใช้บุคคลดังกล่าวโดยผู้ค้า (เรียกแต่ละฝ่ายว่า "ผู้ให้บริการทางเทคนิค") เพื่อให้มีสิทธิ์ได้รับความยินยอม ผู้ให้บริการทางเทคนิคแต่ละรายจะต้อง (เหนือสิ่งอื่นใด) ได้รับการจดทะเบียนกับสถาบันการเงินผู้ออกบัตรที่เกี่ยวข้อง
    2. ถ้าผู้ค้าได้รับอนุญาตให้ใช้ผู้ให้บริการทางเทคนิค ผู้ค้าตกลงและจะรับรองว่าผู้ให้บริการทางเทคนิคจะปฏิบัติตามข้อกำหนดที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและสารสนเทศตามที่ระบุไว้ในภาคผนวกนี้ (รวมถึงโดยไม่จำกัดเฉพาะข้อกำหนด PCI DSS) ที่มีผลบังคับใช้กับการจัดเก็บ การประมวลผล หรือการส่งข้อมูลผู้ถือบัตรไปยัง PayPal
    3. ก่อนหรือนับจากวันแต่งตั้งผู้ให้บริการทางเทคนิค ผู้ค้าตกลงที่จะ:
      1. แจ้งให้ PayPal ทราบเป็นลายลักษณ์อักษรถึงรายละเอียดของผู้ให้บริการทางเทคนิคที่ได้รับการว่าจ้าง หรือเสนอที่จะว่าจ้างให้ทำการประมวลผล จัดเก็บ หรือส่งข้อมูลผู้ถือบัตรในนามของผู้ค้า โดยไม่คำนึงถึงลักษณะหรือระยะเวลาของกิจกรรมดังกล่าว
      2. แสดงหลักฐานที่น่าพอใจแก่ PayPal ว่าผู้ให้บริการทางเทคนิคได้รับการจดทะเบียนกับสถาบันการเงินผู้ออกบัตรที่เกี่ยวข้อง
      3. ปฏิบัติตามข้อกำหนดของผู้ให้บริการทางเทคนิค รวมถึงโดยไม่จำกัดเฉพาะการปฏิบัติตามข้อกำหนดใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบริการ ฮาร์ดแวร์หรือซอฟต์แวร์ของผู้ให้บริการทางเทคนิค และขอความยินยอมจากผู้ใช้ปลายทางที่จำเป็นสำหรับการส่งข้อมูลผ่านทางผู้ให้บริการทางเทคนิค และ
      4. ตามดุลยพินิจของ PayPal ทำการอนุญาตให้ PayPal ลงทะเบียนผู้ค้ากับผู้ให้บริการทางเทคนิคที่เกี่ยวข้อง (ตามที่จำเป็น)
    4. ผู้ค้าตกลงว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบต่อความสัมพันธ์กับผู้ให้บริการทางเทคนิคแต่เพียงผู้เดียวและข้อมูลใดๆ ที่ส่งไปยังผู้ให้บริการทางเทคนิค การที่ผู้ค้าไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ในวรรค 5 นี้ หรือการที่ผู้ให้บริการทางเทคนิคหรือผู้ประมวลผลเกตเวย์ไม่ได้ลงทะเบียนและ/หรือปฏิบัติตามข้อกำหนดด้านความปลอดภัยของข้อมูลที่เกี่ยวข้องอาจส่งผลให้ผู้ค้าถูกปรับหรือได้รับโทษปรับ PayPal อาจยกเลิกข้อตกลงของบัตรนี้ทันทีเมื่อผู้ค้าละเมิดวรรค 5 นี้

ภาคผนวก 2 - ข้อตกลงของธนาคาร

ข้อตกลงของธนาคาร


PayPal ใช้บริการต่างๆ จากบุคคลภายนอกเพื่อประมวลผลการทำรายการผ่านบัตร ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องจะอยู่ที่ https://www.paypal.com/al/webapps/mpp/ua/ceagreement-full?locale.x=en_AL (สัญญาการใช้บริการสำหรับองค์กรเชิงพาณิชย์สำหรับบริการประมวลผลที่ได้รับการชำระเงินด้วยบัตร PayPal)

ภาคผนวก 3 – ข้อกำหนดในการป้องกันการฉ้อโกง

ข้อกำหนดการใช้งานฟังก์ชันการป้องกันการฉ้อโกง

  1. วิธีการป้องกันการฉ้อโกง
    1. คุณสามารถใช้การป้องกันการฉ้อโกงเป็นเครื่องมือจัดการการทำรายการที่ฉ้อโกงเพื่อช่วยให้คุณสามารถคัดกรองการทำรายการที่อาจฉ้อโกงได้ตามการตั้งค่าที่คุณใช้ในการป้องกันการฉ้อโกง เครื่องมือนี้จะช่วยให้คุณตั้งค่ากฎการกรอง กล่าวคือ เพื่อแจ้งให้เราทราบว่าการทำรายการใดที่เครื่องมือนี้ควรจะปฏิเสธในนามของคุณตามเกณฑ์ที่เป็นนามธรรม ในการใช้การป้องกันการฉ้อโกง คุณจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของเราเพื่อเปิดใช้งานการป้องกันการฉ้อโกงตลอดเวลา
    2. เราอาจให้คำแนะนำว่าตัวกรองและการตั้งค่าใดที่ควรใช้ในการป้องกันการฉ้อโกงที่อาจเหมาะสมกับธุรกิจของคุณ คำแนะนำเหล่านี้จะคำนึงถึงประวัติการทำรายการที่ผ่านมาของคุณ
    3. โดยไม่คำนึงถึงสิ่งที่กล่าวข้างต้น ถ้าคุณใช้การป้องกันการฉ้อโกง คุณจะเป็นผู้รับผิดชอบในการกำหนดและตั้งค่ากฎการกรองขั้นท้ายสุด
  2. ไม่มีการรับประกันและการจำกัดความรับผิด
    1. เราไม่รับรองหรือรับประกันว่าการป้องกันการฉ้อโกงจะไม่มีข้อผิดพลาดหรือจะตรวจพบกิจกรรมการทำรายการที่อาจมีการฉ้อโกงได้ทั้งหมด เครื่องมือนี้เป็นเพียงเครื่องมือที่จะช่วยคุณในการระบุการทำรายการที่อาจมีการฉ้อโกงเท่านั้น
    2. เราไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียของคุณ (เช่น การสูญเสียกำไร) หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากหรือเกี่ยวข้องกับการใช้การป้องกันการฉ้อโกง จนถึงขอบเขตที่กฎหมายที่บังคับใช้อนุญาตไว้ หัวข้อต่างๆ ของสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ ที่เกี่ยวกับ "การชดใช้ค่าเสียหายและการจํากัดความรับผิด" และ "ข้อความปฏิเสธการรับประกันและการปลดเปลื้อง" มีผลบังคับใช้กับการใช้การป้องกันการฉ้อโกงของคุณ
  1. การคุ้มครองข้อมูล
    1. คุณสามารถใช้การป้องกันการฉ้อโกงเพื่อวัตถุประสงค์ในการจัดการความเสี่ยงจากการฉ้อโกงของคุณเท่านั้น และไม่ใช้เพื่อวัตถุประสงค์อื่นใด
    2. คุณต้องไม่แบ่งปันการใช้การป้องกันการฉ้อโกงกับบุคคลอื่นใด และต้องไม่เปิดเผยหมวดหมู่ต่างๆ ที่จัดไว้ให้ในการป้องกันการฉ้อโกงหรือผลที่เกิดขึ้นจากการใช้งานการป้องกันการฉ้อโกงของคุณแก่บุคคลใด
  2. เบ็ดเตล็ด
    1. แม้ว่าคุณจะได้ทำการตั้งค่าไว้ในการป้องกันการฉ้อโกง เราขอสงวนสิทธิ์ในการปฏิเสธหรือระงับการทำรายการใดๆ ตามข้อกำหนดของสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการเสมอ
    2. ข้อกำหนดเหล่านี้เป็นข้อกำหนดเพิ่มเติมจากสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการที่ควบคุมการใช้บริการของเราโดยทั่วไป คำว่าบริการของ PayPal ในสัญญาสำหรับผู้ใช้บริการ เมื่ออ่านร่วมกับข้อกำหนดเหล่านี้ให้หมายรวมถึงการป้องกันการฉ้อโกงด้วย ถ้าสามารถนำมาใช้ได้
    3. เราอาจแก้ไข ลบ หรือเพิ่มข้อกำหนดเหล่านี้ตามขั้นตอนการเปลี่ยนแปลงที่ระบุไว้ในข้อตกลงของบัตร ถ้าคุณไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลงใดๆ คุณสามารถยกเลิกข้อกำหนดเหล่านี้ได้
    4. คุณสามารถยกเลิกข้อกำหนดในภาคผนวก 3 นี้เมื่อใดก็ได้โดยลบการป้องกันการฉ้อโกงออกจากการเชื่อมโยงระบบของคุณ และทำตามขั้นตอนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมโยงระบบซึ่งเราจัดไว้ให้คุณใช้งาน การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณหยุดใช้การป้องกันการฉ้อโกง แต่บัญชี PayPal ของคุณยังคงเปิดอยู่และข้อตกลงของบัตร (และข้อตกลงอื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการจัดหาบริการและ/หรือบริการของ PayPal ให้แก่คุณ) ยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไป
    5. เราอาจยุติ ยกเลิก หรือระงับบริการได้ตลอดเวลา ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม (เมื่อสามารถทำได้) โดยแจ้งให้ทราบล่วงหน้าอย่างสมเหตุสมผล ตามขอบเขตที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการฉ้อโกงของเราโดยไม่ต้องรับผิดต่อคุณ
    6. ข้อกำหนดเหล่านี้จะยังคงมีผลบังคับใช้ต่อไปหลังการยกเลิกภายในขอบเขตและนานตราบเท่าที่เราจำเป็นต้อง: (i) จัดการกับเรื่องต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากการใช้การป้องกันการฉ้อโกงของคุณก่อนการยกเลิก และ/หรือ (ii) ปฏิบัติตามกฎหมายและกฎข้อบังคับต่างๆ ที่บังคับใช้
  • ความช่วยเหลือ
  • ผู้ติดต่อ
  • ค่าธรรมเนียม
  • ข้อมูลความปลอดภัย
  • แอป
  • ซื้อสินค้า
  • พันธมิตร
  • English

  • เกี่ยวกับเรา
  • ห้องข่าว
  • ร่วมงานกับเรา

  • © 1999–2025
  • การเข้าถึง
  • ความเป็นส่วนตัว
  • คุกกี้
  • ข้อมูลทางกฎหมาย

ลิขสิทธิ์ © 1999-2021 PayPal (ประเทศไทย) จำกัด เจ้าของใบอนุญาตบริการเงินอิเล็กทรอนิกส์ (ใบอนุญาตเลขที่ บ.(2) 022/2561), ใบอนุญาตผู้ประกอบธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้รับอนุญาต (ใบอนุญาต FX e-Money) (ใบอนุญาตเลขที่ FE12564001), ใบอนุญาตบริการสนับสนุนระบบชำระเงิน (ใบอนุญาตเลขที่ บ.(3.2) 025/2561) และใบอนุญาตบริการโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ (ใบอนุญาตเลขที่ บ.(4) 051/2561) สงวนสิทธิ์ทุกประการ PayPal (Thailand) จํากัด ตั้งอยู่ที่ Athenee Tower ชั้น 23, 63 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330 ประเทศไทย

เมื่อคุณเข้าชมหรือใช้งานเว็บไซต์ บริการ แอปพลิเคชัน เครื่องมือ หรือระบบข้อความของเรา เราหรือผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตอาจใช้คุกกี้ เว็บบีคอน และเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกันในการจัดเก็บข้อมูล เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้น รวดเร็วขึ้น และปลอดภัยยิ่งขึ้นให้กับคุณ รวมถึงเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการโฆษณา ดูเพิ่มเติมที่นี่.